พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน

พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน ตั้งอยู่ภายในวัดโพนชัย อ.ด่านซ้าย จ.เลย เป็นสถานที่เก็บ และจัดนิทรรศการเรื่องราว เกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของขนบธรรมเนียมประเพณีต่าง ๆ ที่สืบต่อกันมา รวมถึงผีตาโขนที่มีความเชื่อกันว่าเป็นการละเล่นพื้นบ้านที่สืบทอด มาแต่โบราณกาล ว่างานบุญผีตาโขนนี้เป็นส่วนหนึ่งของงานบุญหลวง ที่ถือว่าเป็นงานบุญใหญ่ประจำปีของท้องถิ่นที่รวมเอางานบุญพระเวส (ฮีตเดือนสี่) และงานบุญบั้งไฟ (ฮีตเดือนหก) ให้เป็นงานบุญเดียวกันโดยงานบุญพระเวสมีวัตถุประสงค์จัดเพื่อให้ฟังเทศน์มหาชาติ ส่วนงานบุญ บั้งไฟนั้นเป็นงานที่จัดขึ้นเพื่อถวาย บูชาเทวาอารักษ์รักเมือง ขอให้ฝนตกตามฤดูกาล ซึ่งผีตาโขนจะเป็นผู้ออกมาสร้างสีสันและความครื้นเครงในข บวนแห่ ส่วนชื่อของผีตาโขนนั้นเล่าต่อกันมาว่าน่าจะมาจากการสวมหน้ากากคล้ายหัวโขน หรือบางคนเรียกเป็นผีตาขน ผีตามคน และเพี้ยนเป็น ผีตาโขนในที่สุด

ห้วยกระทิง

อ่างเก็บน้ำหมานตอนบนหรืออ่างเก็บน้ำห้วยกระทิงอยู่บ้านห้วยกระทิง หมู่1 ต.กกทอง อ.เมืองเลย จังหวัดเลย ห้วยกระทิง อยู่ใกล้ๆอำเภอเมือง จังหวัดเลย ที่นี่คืออ่างเก็บน้ำห้วยน้ำหมานตอนบน ที่มีความพิเศษกว่าการไปกินและพักผ่อนจากที่อื่นคือ บรรยากาศ ที่ร่มเย็น ลมโกรกสบายเมื่อลอยเรือแพอยู่กลางอ่างเก็บน้ำ พร้อมกับอาหารบ้านๆที่แสนจะอร่อยเป็นที่สุด อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำหมานตอนบนหรือ อ่างเก็บน้ำห้วยกระทิงตั้งอยู่ในวนอุทยานหริรักษ์ เป็นอ่างเก็บน้ำสันเขื่อนดิน มีขนาดความจุ 26 ล้านลูกบาศก์เมตร ครอบคลุมพื้นที่ 1,500 ไร่ สันเขื่อนยาว 800 เมตร สร้างเพื่อการชลประทาน บริเวณอ่างเก็บน้ำมี ทัศนียภาพที่สวยงามของป่าไผ่และภูเขาที่โอบล้อม การเดินทาง ใช้เส้นทาง เลย-ภูเรือ ออกจากตัวเมือง 15 กิโลเมตร และให้เลี้ยวขวาไป 5 กิโลเมตร

เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง

เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง มีพื้นที่ครอบคลุม 4 อำเภอของจังหวัดเลย คือ อ.ภูเรือ อ.วังสะพุง อ.ด่านซ้าย และ อ.ภูหลวง มีความสูงเฉลี่ยราว 1,400 เมตร จากระดับน้ำทะเล พื้นที่บนภูหลวงจะมีลักษณะเป็นที่ราบ บางตอนเป็นป่าสนและป่าดิบเขา ลักษณะที่สำคัญคือ ภูหลวงเป็นดินแดนแห่งพืชพรรณไม้ อาทิ กล้วยไม้ ก่อดำ สนสามใบ กุหลาบแดง กุหลาบขาว เมเปิล เป็นต้น สำหรับแหล่ง ท่องเที่ยวที่น่าสนใจซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินเท้าเที่ยวชมคือ สวนสน ลานหิน ผาหิน และทุ่งหญ้า

สถานีทดลองเกษตรที่สูงภูเรือ

สถานีทดลองเกษตรที่สูงภูเรือ ตั้งอยู่ตำบลปลาบ่า อำเภอภูเรือ เป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่ด้านวิชาการ ในการศึกษาค้นคว้าทดลองไม้ดอกไม้ผล ทั้งของเมืองหนาวและพืชสวนของท้องถิ่นที่เหมาะสมกับดินฟ้าอากาศและระบบนิเวศ ได้แก่ ทุ่งซัลเวีย แปลงไม้กฤษณา สวนไม้หอมเฉลิมพระเกียรติ แปลงสตรอว์เบอร์รี่ โรงเรือนเพาะชำ ไม้กระถาง จากนั้นก็ถ่ายทอดเผยแพร่ผลการศึกษาวิจัยแก่เกตรกร และผู้ที่สนใจต่อไป นักท่องเที่ยวที่สนใจเข้าชมไม้ผลและไม้เมืองหนาวควรไปช่วงเดือนกันยายน-เมษายน

สวนดอกไม้ tsa

สวนดอกไม้ ที เอส เอ ตั้งอยู่บ้านกกโพธิ์ริมน้ำสาน ตำบลร่องจิก เป็นบริษัทเอกชน เป็นแหล่งผลิตไม้ตัดดอกเมืองหนาว เช่น เยอบีร่า ทานตะวัน ไฮเดรนเยีย เป็นต้น ภายในสวนชมฟักทองยักษ์ แปลงไม้ดอกไม้ประดับ จำหน่ายเมล็ดพันธุ์ไม้ดอกนานาพันธุ์ให้นักท่องเที่ยวเข้าชมฟรี สวน ที เอส เอ นั้นจะเปิดบริการตั้งแต่ เดือนพฤศจิกายน – กุมภาพันธุ์ ของทุกปี และเปิดให้เข้าชมวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 8.00 น.-17.00 น. และเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 7.30 น.-18.00 น. (ไม่เก็บค่าเข้าชม) การเดินทางมาโดยใช้ทางหลวงหมายเลข 203 (ภูเรือ-ด่านซ้าย) ห่างจากที่ว่าการอำเภอประมาณ 7 กิโลเมตร

วัดเนรมิตรวิปัสสนา

วัดเนรมิตวิปัสสนา อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย อยู่ห่างอำเภอด่านซ้าย ๑ กิโลเมตร เป็นวัดที่มีพระอุโบสถทำจากศิลาแลงที่สวยงาม ที่สุดภายในพระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐานของ พระพุทธราชชินราชจำลอง และมีภาพจิตรกรรมฝาผนังฝีมือช่างเขียน ชาวด่านซ้าย วัดนี้สร้างด้วยทุนทรัพย์มหาศาล ซึ่งก่อสร้างได้เพราะบุญบารมีของ พระครูภาวนาวิสุทธิญาน (หลวงพ่อมหาพัน) ที่มรณภาพไปแล้ว เป็นสถานที่ที่ใครเดินทางมาถึงด่านซ้าย ไม่ลืมแวะไปนมัสการและเที่ยวชม

ภูลมโล


ภูลมโล อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย ชมดอกซากุระบานทั่วภูลมโลสีชมพูขาว นับแสนต้น 1,200 ไร่ โดยเฉพาะในเดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคม ต้นซากุระ (พญาเสือโคร่ง)เริ่มผลิใบเหลือแต่ดอกซากุระ ซึ้งอยู่เหนือระดับน้ำทะเลประมาณ 1,800 เมตรช่วงฤดูหนาวจะมีอุณภูมิ 0 องศา ช่วงบ่าย 2 โมง 4 องศา และในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม ช่วงเช้าจะมีอุณภูมิ ประมาณ 8-10 องศา ช่วงบ่าย 15-19 องศาถ้ามองไปทางทิศใต้ภูลมโล จะเห็นบ้านหมันขาวซึ้งเป็นหมู่บ้านของชาวถิ่นและเผ่าลัวะ ทิศตะวันออกจะเห็นภูหินร่องกล้า,ภูทับเบิก จ.พิษณุโลก ทิศตะวันตกจะเห็นภูขี้เถ้า (ซึ้งอดีตเป็นพื้นที่สีแดง ที่มีการต่อสู้ของทหารและคอมมิวนิวต์) ทิศเหนือจะเห็นชาวบ้านเผ่าม้ง บ้านตูบค้อปลูกต้นกระหล่ำปลีเขียวเต็มทั่วภูจำนวนพันไร่

แก่งคุดคู้


แก่งคุดคู้ เป็นแก่งหินใหญ่ขวางอยู่กลางลำน้ำโขง ห่างจากตัวอำเภอเชียงคานประมาณ 3 กม. ประกอบด้วย หินก้อนใหญ่ ๆ เป็นจำนวนมากจากการที่หินเหล่านี้อยู่ใต้น้ำเป็นเวลานาน ทำให้หินเหล่านี้มีสีสัน ไปต่าง ๆ ตัวแก่ง กว้างใหญ่เกือบจรดสองฝั่งแม่น้ำโขง มีกระแสน้ำไหลผ่านไปเพียงช่องแคบ ๆ ใกล้ฝั่งไทยเท่านั้นเอง ซึ่งกระแสน้ำเชี่ยวกราก เวลาที่เหมาะจะชมแก่งคุดคู้ที่สุดคือ เดือนกุมภาพันธ์ ถึงเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นเวลาที่น้ำแห้ง มองเห็นเกาะแก่งชัดเจน บริเวณแก่ง มีร้านอาหารจำหน่าย มากมาย